นายจ้าง-ลูกจ้างเฮลั่น เงินสมทบ ปรับลดเพิ่มอีก มิถุนายน-สิงหาคมนี้

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่มีคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 64 ที่ผ่านมา ครม แถลงการเห็นชอบให้มีการลดการจ่ายเงินสมทบประกันสัมคมจากเดิม 5 เปอร์เซนต์ เหลือเพียง 2.5 เปอร์เซนต์ โดยทำการลดให้แบบชั่วคราว

เนื่องจากเห็นว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความลำบากที่เกิดขึ้นในขณะนี้แก่นายจ้างและผู้ประกันตนที่กำลังรับผลกระทบจากเชื้ อCV-19

มติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ.ส่งผลให้ลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเป็นเวลา 3 เดือนในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2564 โดย นายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33

จะจ่ายเงินสมทบรายเดือนฝ่ายละ 2.5% ของค่าจ้างผู้ประกันตน (จากเดิม จากเดิมฝ่ายละ 5%) สูงสุดเหลืออัตราเดือนละ 375 บาท ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลืออัตราเดือนละ 216 บาท

ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง (ผู้ประกันตนตามมาตรา 33) จะจ่ายเงินสมทบฝ่ายละ 2.5% ของค่าจ้างผู้ประกันตน (จากเดิมฝ่ายละ 5%) ทำให้เงินสมทบประกันสังคมที่เคยถูกหักสูงสุดเดือนละ 750 บาท

จะลดลงเป็นหักเดือนละ 375 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่งวดค่าจ้างเดือน มิถุนายน – สิงหาคม 2564

ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 ให้เงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในอัตราเดือนละ 216 บาท จากเดิม 432 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน มิถุนายน – สิงหาคม 2564 เช่นกัน

การลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมครั้งนี้ จะกลายเป็นการลดครั้งที่สองของปี 2564 หลังจากที่เคยประกาศกฎกระทรวงลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมมาครั้งหนึ่งแล้วเหลือ 0.5% สำหรับค่าจ้างใน ง ว ด มกราคม – มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การลดเงินสมทบเหลือ 2.5% ในครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้าง จำนวน 485,113 ราย ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11,164,384 คน และผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1,832,500 คน ที่จะสามารถนำเงินสมทบที่ลดลงนั้นไปใช้จ่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โ ค วิ ด-19

ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,163 ล้านบาท ซึ่งจะลดปัญหาทางการเงินของนายจ้างและผู้ประกันตน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตผู้ประกันตนดีขึ้น รวมถึงเป็นการรักษาระดับการจ้างงานของนายจ้างได้อีกด้วย