เคาะ 4 หลักเกณฑ์ควบคุม CV-19
ในส่วนของสถานการณรอบนี้ต้องยอมรับว่ามาไม่ทันตั้งตัวกับหลายคนจริงๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. รับทราบด้วยความห่วงใยต่อสถานการณ์ CV-19 ที่มีการแพร่ระบา ดในวงกว้างในพื้นที่กทม. และปริมณฑล
ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าไม่ถึงบริการคัดกรองตรวจ CV-19 และการรักษาพยาบาล จึงกำชับทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาการจัดการและปรับแผนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งทรัพยากรทางการแพทย์และสาธารณสุขมีอยู่อย่างจำกัด
โดยในที่ประชุมศบค.วานนี้ (16 ก.ค.) นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการควบคุมการแพร่ระบา ดทั้งการตรวจหาเชื้ อให้ครอบคลุมให้มากที่สุดโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ย ง และการจัดการดูแลผู้ติดเชื้ อในลักษณะการดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หรือการดูแลรักษาที่ชุมชน (Community Isolation)
และปัจจุบันได้มีการอนุญาตให้ใช้ Antigen Test Kit (ATK) ตรวจหา CV-19 เพื่อตรวจให้ครอบคลุมประชากรให้มากที่สุด และนำผู้ป่ว ยเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็ว ลดการแพร่ระบา ดในชุมชน
ซึ่งมาตรการ Home Isolation หรือการดูแลผู้ติด CV-19 ที่บ้าน และมาตรการ Community Isolation หรือการดูแลผู้ติด CV-19 ด้วยระบบชุมชน เป็นมาตรการเสริม ซึ่งนำมาใช้ในพื้นที่ที่มีผู้ติดสูง โดยเฉพาะกทม. และปริมณฑล ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดที่ยังมีผู้ติดน้อย ก็ยังคงใช้มาตรการดูแลผู้ป่ว ยในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม
ซึ่งผู้ป่ว ยที่อยู่ที่บ้านหรือที่ชุมชนก็จะได้รับการดูแลเสมือนอยู่โรงพยาบาล ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่ง Comprehensive Covid-19 Response Team หรือ CCR Team ที่ประกอบด้วยทีมแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข เครือข่ายภาคประชาชนหรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และเจ้าหน้าที่เขตของกทม. ติดตามการดูแลผู้ติด CV-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชนของผู้ป่ วยด้วย นายอนุชา กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการ Home Isolation มีหลักการดังนี้
1.ผู้ป่ว ยติดเชื้ ออาการต้องไม่รุ นแร งหรือเป็นผู้ป่ว ยที่จัดอยู่ในกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการปอ ดอั กเส บ ไม่มีอาการแทร กซ้อ น ไม่เป็นกลุ่มเสี่ย ง เช่น ผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก หรือมีภาวะโร คเสี่ย ง
2.ที่พักต้องเป็นแบบที่อยู่ด้วยกันแบบไม่แออัดจนแยกกักตัวไม่ได้ ถ้าอยู่ด้วยกันหลายคนแล้วต้องนอนรวมกัน ก็ไม่เหมาะกับ Home Isolation เพราะจะเกิดการแพร่เชื้ อ ต้องจัดเป็น Community Isolation หรือที่ชุมชนจัดให้แทน
3.ผู้ป่ว ยต้องมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือในการกักตัว ไม่ควรออกไปนอกบ้านจนทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้ อ 4.โรงพยาบาลจะเข้าไปดูแลผู้ป่ว ยอย่างใกล้ชิด มีแพทย์ที่สามารถทำ Video call ติดตามอาการคนไ ข้ได้ทุกวัน มีอุปกรณ์วัดอุณหภูมิและอุปกรณ์วัดระดับออกซิเจนให้ มีการจ่ายฟาวิพิราเวียร์ และฟ้าทะลายโจร และมีอาหารให้ผู้ติดเชื้ อ 3 มื้อ และในกรณีที่อาการเปลี่ยนแปลง จะส่งต่อรักษาโรงพยาบาลทันที
นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับมาตรการ Community Isolation หรือการดูแลผู้ติด CV-19 ด้วยระบบชุมชน คกก.โร คติดต่อจังหวัด และเจ้าของสถานที่หรือชุมชน จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์และความพร้อม โดยพิจารณาจากจำนวนและระดับอาการผู้ติดเชื้ อ จำนวนและระดับอาการของผู้ที่เข้าข่ายเกณฑ์สอบสวนโร ค จำนวนผู้สัมผัสเสี่ย งสูง สถานที่ตั้งและสภาพแวดล้อม
ทั้งนี้ผู้ป่วยยืนยันติด CV-19 เป็นผู้ที่อยู่ในชุมชน เป็นผู้ป่ว ยยืนยันรายใหม่ท่ีไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย เป็นผู้ป่ว ยที่ไม่ต้องการออกซิเจนในการรักษา และรองรับได้ทุกกลุ่มผู้ป่ว ย โดยจะคัดเลือกพื้นที่หรือชุมชนที่มีความเข้มแข็ง และต้องได้รับความร่วมมือจากชุมชนหรือภาคเอกชนในการร่วมกันดูแลผู้ป่ว ยในพื้นที่ เป็นความร่วมมือระหว่างเขต โรงพยาบาล (ทั้งภาครัฐและเอกชน) และศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ และเป็นชุมชนที่มีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเป้าหมายสำคัญในการดูแลผู้ป่ว ยที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการที่บ้านหรือแยกกักในชุมชน เพื่อให้ผู้ป่ว ยกลุ่มนี้ได้เข้ารับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด รวมทั้งยังช่วยสงวนเตียงโรงพยาบาล เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่ว ยที่มีระดับความรุ นแร ง ทั้งกลุ่มผู้ป่ว ยอาการสีเหลืองและสีแดงได้เพียงพอ
นอกจากนี้ ผอ. ศบค. ยังขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการที่จะมีการยกระดับที่เข้มข้น เช่น งดการรวมกลุ่ม จำกัดการเดินทางข้ามพื้นที่ อยู่ในที่พักตามเวลาที่กำหนด โดยขอให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมการแพร่กระจายของ CV-19 ร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนทำตามมาตรการป้องกัน สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งด้วย