เตรียมเฮทั้งประเทศ อย. เตรียมขึ้นทะเบียน ฟาวิพิราเวียร์ รักษา CV ในไทย
คนไทยชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก คำนี้พูดเได้เต็มปากกันแล้ว สำห รับในส่วนของสถานกา รณ์รอบที่ 4 นี้นั้นทำให้หลายคน เจอกับปัญหาหล ายอยา่างจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ วั คซีน จากทาย าทคนใหญ่คนโต หรือเรื่ออะไรหลาขยอย่าง แต่ในตอนนี้วันนี้น คนไทย และประเท ศไทยจะต้องกลับมาอี กครั้งแน่นอน เพราล่าสุดการแพทย์ไทยได้ทำการคิดค้นตัวย า ฟาวิ พ ิ รา เว ี ยร์ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นสัญญานบอกว่าอาเซี้ยน พ ี่ไทยกลับมาแล้ว
ล่าสุด จากกรณี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐ มนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรั ฐมนตรี ติดตาม ความคื บหน้าการวิ จัยและพัฒนาการผลิต ย า ฟ า วิพิราเวียร์ในประเทศ
สำหรับต้าน ไ ว รั ส โ ค วิ ด-1 9 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ BCG (Bio-Circula-Green Economy) ของรั ฐบาล
โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รายงานว่า ได้มีการลงนามความร่ วมมือระหว่าง สวทช. องค์การเภสัชกรร ม (อภ.) และ บริษัท ปตท.
เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคร าะห์สารตั้งต้น (Active Pharmaceutical Ingredients : API) ของกา รผลิต ย า ฟาวิพิร าเวียร์ ความเป็นไปได้ในการผลิ ตเชิงพาณิชย์ เพี่อสร้างความมั่นคงทางย าให้แก่ประเทศไทย
โดยความร่วมมือดังกล่าว มีความคืบหน้าอย่า งมาก สามารถสังเคร าะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และยังเป็นการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นที่มีราคาถูก โดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจ ากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันต้ องมีการนำเข้ามา กถึงร้อยละ 95
ในเดือน กรกฎาคมนี้ ทางองค์การเภสัชกร รมคาดว่า ย า ฟ า วิ พิ ร า เวียร์ที่ได้วิจัยและพัฒนาขึ้นนั้น จะได้รับการขึ้ นทะเบีย นตำรับ ย า จากสำนักงานคณะกรร มการอาหารและยา (อย.) และจากนั้นจะเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่ อให้ผู้ ป่ ว ย โ ค วิ ด -1 9 เข้าถึงยาอย่ างเพียงพอ เมื่อทุกอย่ างสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจะสามารถผลิ ตยาฟาวิพิราเวียร์ในราค าที่ถูกกว่านำเข้าอย่างมาก
สำหรับความร่วมมื อระหว่าง สวทช. อภ. และ บริษัท ปตท. ครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบในระดับห้องปฏิบั ติการ (Laboratory scale) การถ่ายทอดเทคโนโลยีจ นถึงระดับอุตสาหกร รม (Industrial scale)
ตล อดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในก ารพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรร ม (Feasibility Study) ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ จึงถือเป็ นอีกหนึ่งโมเดลความร่วมมือ รัฐ-เอกชน ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยา ขณะเดียวกันการพัฒนาวัคซี นป้องกัน โ ร ค โ ค วิ ด-1 9 โดยนักวิจัยไทยก็มี ความก้าวหน้าไปมากเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการแพ ทย์และสาธารณสุ ขของไทย
ระยะยาวนำไปสู่การลดการนำเข้า และยังเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งบุคคลากรมีทั้งความรู้และนำไปต่อยอดเพื่อการผลิตขายต่อไปด้วย