เพื่อประชาชนทุกคน มาตรการเยียวยา ปชช. ทุกกลุ่ม

ในเวลานี้ ต้องยอมรับจริงๆว่า ประเทศไทยหได้รับผลกระทบจาก cvd 19 ฝนรอบที่ 4นี้เยอะจริงๆ ทั้บงนี้ ปร ะชาชนได้รับในส่วนของผลกระทบด้ านค่าใช้จ่ายและ การกระจ ายของ cv-19 ซึ่งถ้าเรามีสติ ไม่ฉวยโอกาศ ไม่เอาเปรียบคนไทยด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่าเราต้องข้ามไปด้วยกัน

น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีออกมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแ พร่ระบา ดของโค วิด-19 เพราะยอดผู้เสี ยชีวิต  และผู้ติดเชื้อเช้าวานนี้ (7 ก.ค.) ทุ บสถิติสูงสุดของประเทศไทย และดูทีท่าว่าแนวโน้มตัวเลขจะยังคงสูงมากขึ้นต่อเนื่อง ตัวเลขของผู้ติดพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) ที่แพ ร่กระ จายได้รวดเร็วกว่า 1.4 เท่าเข้ามาแทนที่สายพันธุ์อั ลฟ่า (อังกฤษ) ทีมแพ ทย์และพย าบาลด่านหน้าต่างออกมาส่งเสียงร้องถึงความอ่อนล้าในการต่อสู้กับไวรั สโค วิดมาปีกว่า จนหลายท่านถึงกับคาดการณ์ปัญหาว่าหากรัฐ บาลยังปล่อยสถานกา รณ์ให้ดำเนินไปเหมือนเดิม ระบบสาธารณสุขไทยอ าจต้องถึงคราวล่มสลา ยแล้วของจริง

 

“สนับสนุนให้นายกฯ ตัดสินใจล็อกดาวน์ แต่ต้องเตรียมมาตรการต่างๆให้พร้อมรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการ ล็อกดาวน์ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การวางแ ผนรับมือระยะยาวในการต่อสู้กับไวรั สโควิ ด19 ให้กับคนไทยที่จะต้องอยู่กับโ ควิ ด19ไปอีกนาน” น.ส.วทันยา ระบุ

 

น.ส.วทันยา ระบุอีกว่า การเร่งจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงเพิ่มงบวิจัยวั คซี น และยาสมุนไพรไทยต่างๆที่อาจเป็นทางเลือกในการใช้สร้างภูมิต้านทานและเป็นยาเพื่อรักษานอกจากการพึ่ง Favipiravir เพียงอย่างเดียว ปัจจุบันรั ฐบาลได้ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาแล้วกว่า 2,800 ล้านบาท

ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี และจากความคืบหน้าหลายโครงการก็คาดว่าจะมีข่าวดีมาให้คนไทยได้ภายในปลายปีนี้หรือช่วงต้นปีหน้า แต่หากเทียบงบวิจัยในหลายประเทศยังพบว่างบวิจัยวัคซีนของเรายังอยู่ในปริมาณที่ไม่สูงมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การสนับสนุนงบวิจัยเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอเพราะเราจำเป็ นต้องการวางแผนการขยายกำลังผลิตและการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์การแพทย์เพื่อเร่งกระจายวัคซีนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด เพราะวั คซี นที่มีประสิทธิภาพคืออาวุธสำคัญในการต่อสู้กับวิ กฤ ตที่กำลังเกิดขึ้น

 

นอกจากนี้การควบคุมการแพร่ระบาดที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือการเร่งตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุกเพื่อคัดแยกผู้ป่วยทำการกักตัว แต่ตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 จนถึงปัจจุบัน ปัญหาการตรวจคัดกรองผู้ป่วยยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

ในขณะที่หลายประเทศวันนี้ประชาชนสามารถหาซื้อที่ตรวจเชื้อโควิดได้ตามร้านขายยาทั่วไปเพื่อทำการเทสต์เองได้ที่บ้าน